“SAAM” ปักธงเทรดวันแรก ม.ค. 62 นี้

มั่นใจนักลงทุนให้การตอบรับคึกคัก

โชว์พื้นฐานแข็งแกร่งจากรายได้ระยะยาว-ระดมทุนรุกธุรกิจต่างแดน 

เอสเอเอเอ็ม เอ็นเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเมนท์” หรือ SAAM มั่นใจเทรดวันแรก ม.ค. 62 นี้ นักลงทุนให้การตอบรับคึกคัก ตอกย้ำธุรกิจพื้นฐานแกร่ง โมเดลธุรกิจมีความมั่นคงของรายได้ระยะยาว อัตราการทำกำไรโดดเด่น รับผลบวกระดมทุนรุกธุรกิจพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในต่างประเทศเพื่อจำหน่าย 

 

นายพดด้วง คงคามี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสเอเอเอ็ม เอ็นเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAAM ผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนอิสระ เปิดเผยว่า บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าหุ้น SAAM ที่จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันแรก ในวันที่ มกราคม 2562 จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างแน่นอน เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้เดินสายให้ข้อมูลแก่นักลงทุนอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนมีความเข้าใจในโมเดลธุรกิจของบริษัทฯ ที่มีจุดเด่นจากพื้นฐานธุรกิจที่มีผลการดำเนินงานที่มั่นคงและแน่นอนจากการทำสัญญาระยะยาวกับลูกค้า และมองเห็นโอกาสการเติบโตจากการรุกธุรกิจในต่างประเทศของกลุ่มบริษัทฯ

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ ส่วนใหญ่บริษัทฯ จะนำไปใช้เป็นเงินทุนสำหรับธุรกิจที่จะสร้างการเติบโตในอนาคต โดยบริษัทฯ วางแผนที่จะใช้เป็นเงินทุนสำหรับการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลในประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งยังใช้เป็นเงินทุนเพื่อเข้าร่วมลงทุนในบริษัทอื่น ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการดำเนินงานโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัทฯ

SAAM ประกอบธุรกิจพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพื่อจำหน่าย และลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยในปัจจุบันได้ดำเนินธุรกิจ แบ่งเป็น ธุรกิจที่ธุรกิจจัดหาสถานที่ตั้งและให้บริการที่เกี่ยวข้องภายในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน โดยดำเนินงานโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยร่วมกับลูกค้า โดยได้รับค่าตอบแทนจากการให้บริการภายใต้สัญญาระยะยาว 20 ถึง 25 ปี จำนวน 17 โครงการ บนพื้นที่กว่า 750 ไร่ ในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง เพชรบุรี ลพบุรี อุบลราชธานี และประจวบคีรีขันธ์  ธุรกิจที่ธุรกิจพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพื่อจำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยในปี 2559 บริษัทฯ ได้เล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจและได้เริ่มเข้าไปศึกษาและพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลในประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลที่อยู่ระหว่างดำเนินการพัฒนาในประเทศญี่ปุ่นเพื่อการจำหน่ายผ่านบริษัทย่อย จำนวน บริษัท ซึ่งบริษัทฯ พัฒนาจนได้รับใบอนุมัติสนับสนุนค่าไฟฟ้าระบบ FiT ที่ 24 เยนต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมงแล้ว จำนวน โครงการ ได้แก่ โครงการ SAAM Oita 01 Biomass Power  และโครงการ SAAM Oita 02 Biomass Power ปริมาณกำลังการผลิตติดตั้งโครงการละ 19.9 เมกะวัตต์ ซึ่งเมื่อบริษัทฯ พัฒนาจนเป็นโครงการที่พร้อมในการก่อสร้างตามเงื่อนไขของสัญญา บริษัทฯ จะทำการโอนขายเงินลงทุนในบริษัทย่อยให้แก่ลูกค้าเพื่อให้ลูกค้าเข้าดำเนินการก่อสร้างและดำเนินกิจการโรงไฟฟ้าภายใต้บริษัทย่อยดังกล่าวต่อไป และธุรกิจที่ธุรกิจลงทุนในกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน โดยปัจจุบันเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ภายใต้โครงการ SAAM-SP1 ซึ่งตั้งอยู่ที่ อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี โดยมีปริมาณพลังงานไฟฟ้าเสนอขายตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจำนวน 2.0 เมกะวัตต์ (MW) ในระบบ FiT ที่อัตรารับซื้อ 5.66 บาทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง โดยเริ่ม COD เมื่อเดือนธันวาคม 2558

ทั้งนี้  วันที่ 30 กันยายน 2561 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 319.4 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 173.4 ล้านบาท มีอัตราหนี้สินต่อส่วนผู้ถือหุ้น (D/E) อยู่ที่ 0.84 เท่า โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน บริษัทมีกำไรขั้นต้นร้อยละ 71.2-73.3 และอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 25.2-41.8

 “SAAM เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2550 ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มแรก ล้านบาท และมีการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี โมเดลธุรกิจของเรา คือ ดีเวลลอปเปอร์ หรือผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนอิสระ เรามีความรู้ความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยจะเริ่มจากการติดต่อสรรหาที่ดินและระบบสายส่งที่เหมาะสม ตลอดจนดำเนินการขอใบอนุญาตต่างๆ ในการประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้ากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง อาทิ ใบสนับสนุนค่าไฟฟ้า ใบอนุญาตในการก่อสร้าง และหนังสือแจ้งผลการพิจารณาวงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงิน เป็นต้น และในอนาคตหากบริษัทฯ มีรายได้การพัฒนาโครงการดังกล่าว ก็จะนำเงินส่วนหนึ่งมาลงทุนเพื่อซื้อที่ดินให้ผู้ดำเนินกิจการโรงไฟฟ้ามาเช่าและใช้บริการในที่ดินของบริษัท คล้ายกับกิจการนิคมอุตสาหกรรมของผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าแบบครบวงจร หลังจากที่ได้เงินจากการระดมทุนเข้ามา ประกอบกับการเป็นบริษัทจดทะเบียน จะช่วยให้บริษัทมีศักยภาพและความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ทั้งในแง่ของการขยายช่องทางการดำเนินธุรกิจและฐานะทางการเงิน ซึ่งเป็นโอกาสในการเพิ่มศักยภาพการเติบโตของบริษัทให้รวดเร็วยิ่งขึ้น นายพดด้วง กล่าวในที่สุด

ด้านนายชาญชัย กงทองลักษณ์ กรรมการอำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ 
บริษัท เอสเอเอเอ็ม เอ็นเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAAM เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เปิดจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ในวันที่ 24-27 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา โดยได้มีการเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 80 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ26.67 ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ จำนวน 300 ล้านหุ้น มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 150 ล้านบาท ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ ที่ราคา IPO หุ้นละ 1.80 บาท คิดเป็นมูลค่าการเสนอขายรวม 144 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์  ราคา IPO 540 ล้านบาท นักลงทุนได้ให้ความสนใจจองซื้อหุ้น เนื่องจากมองเห็นปัจจัยพื้นฐานธุรกิจของ SAAM ที่ีผลการดำเนินงานที่มั่นคง และมองเห็นแนวโน้มการเติบโตในอนาคต

การที่ SAAM จะเข้าเทรดวันแรกในวันที่ ม.ค. 2562 นี้ เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนเพราะโมเดลธุรกิจที่มีความมั่นคงและแน่นอนของรายได้ระยะยาว และมีอัตราการทำกำไรที่ดีสะท้อนจากผลการดำเนินงานที่ผ่านมา รวมทั้งในอนาคตยังมีโอกาสขยายตัวได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ” นายชาญชัย กล่าว

*******************************